10 คำถามก่อนจะตัดสินใจลงทุนซอฟต์แวร์ CRM (Customer Relationship Management)

ในยุคดิจิทัลที่การติดต่อสื่อสารและการเชื่อมโยงกับลูกค้ามีความสำคัญอย่างมาก การใช้ระบบการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM หรือ Customer Relationship Management) จึงกลายเป็นสิ่งที่หลายธุรกิจหันมาให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ระบบ CRM ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนานกับลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการบริการลูกค้า

10 คำถามก่อนจะตัดสินใจลงทุนซอฟต์แวร์ CRM

แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในระบบ CRM มีคำถามสำคัญหลายข้อที่คุณควรถามตัวเองและทีมงานของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และคุ้มค่าที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ

1. ทำไมบริษัทของคุณต้องการระบบ CRM?

การลงทุนในระบบ CRM ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย และการทำความเข้าใจถึงเหตุผลที่บริษัทของคุณต้องการระบบนี้จึงเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ

– การวิเคราะห์ความต้องการของบริษัท:

ก่อนอื่น คุณต้องทำความเข้าใจว่าบริษัทของคุณกำลังประสบกับปัญหาอะไรที่ต้องการแก้ไข เช่น การจัดการข้อมูลลูกค้าที่ซับซ้อน การขาดการเชื่อมโยงระหว่างทีมขายและทีมบริการลูกค้า หรือการดำเนินงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ

– การระบุปัญหาที่ระบบ CRM จะช่วยแก้ไข:

เมื่อทราบถึงปัญหาแล้ว ให้ทำการประเมินว่าระบบ CRM จะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น ระบบ CRM สามารถช่วยในการติดตามและจัดการข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดข้อผิดพลาดในการจัดการข้อมูลลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการวางแผนการตลาดและการขาย

– ตัวอย่างกรณีศึกษา:

ศึกษากรณีของบริษัทที่ประสบความสำเร็จในการนำ CRM มาใช้ เพื่อดูว่า CRM ได้ช่วยแก้ไขปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานอย่างไรบ้าง การมีตัวอย่างจริงจะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าระบบ CRM จะทำงานอย่างไรในบริษัทของคุณ

2. ระบบ CRM เหมาะสมกับขนาดและประเภทของธุรกิจของคุณหรือไม่?

ไม่ใช่ทุกระบบ CRM จะเหมาะสมกับทุกธุรกิจ การเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ

– การปรับแต่งระบบ CRM ให้เหมาะสมกับธุรกิจ:

ตรวจสอบว่าระบบ CRM ที่คุณกำลังพิจารณาสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะของธุรกิจคุณหรือไม่ ระบบ CRM ที่มีความยืดหยุ่นจะสามารถปรับตัวได้ดีกับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลงในธุรกิจของคุณ

– การพิจารณาความต้องการเฉพาะของอุตสาหกรรม:

ธุรกิจแต่ละประเภทมีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ธุรกิจการค้าปลีกอาจต้องการฟังก์ชันการจัดการการขายและการจัดการลูกค้า ในขณะที่ธุรกิจบริการอาจต้องการฟังก์ชันการจัดการงานบริการและการติดตามการให้บริการลูกค้า การเลือกระบบ CRM ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะของอุตสาหกรรมของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ

– การเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสม:

เปรียบเทียบโซลูชั่น CRM ที่มีอยู่ในตลาด วิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย และเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ อย่าลืมพิจารณาถึงการสนับสนุนหลังการขายและการบริการลูกค้าของผู้ให้บริการด้วย

3. งบประมาณที่คุณมีเพียงพอหรือไม่?

การลงทุนในระบบ CRM ต้องการงบประมาณที่สูง และการวางแผนงบประมาณอย่างละเอียดจะช่วยให้การลงทุนครั้งนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น

– ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นและการบำรุงรักษา:

คำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งและเริ่มใช้งานระบบ CRM รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและการอัพเกรดระบบในอนาคต การมีงบประมาณที่เพียงพอจะช่วยให้คุณสามารถเลือกโซลูชั่นที่ดีที่สุดได้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

– การวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI):

ประเมินว่าการลงทุนในระบบ CRM จะให้ผลตอบแทนอย่างไร เช่น การลดต้นทุนการดำเนินงาน การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และการเพิ่มรายได้ การคำนวณ ROI จะช่วยให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่าการลงทุนครั้งนี้คุ้มค่าหรือไม่

4. ทีมงานของคุณพร้อมที่จะใช้งานระบบ CRM หรือไม่?

การนำระบบ CRM มาใช้ไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในวิธีการทำงานและวัฒนธรรมองค์กรด้วย

– การเตรียมความพร้อมของทีมงาน:

ตรวจสอบว่าทีมงานของคุณมีความรู้และทักษะที่จำเป็นในการใช้งานระบบ CRM หรือไม่ หากไม่พร้อม ควรจัดการฝึกอบรมและเพิ่มทักษะให้กับทีมงาน

– การฝึกอบรมและการสนับสนุน:

การฝึกอบรมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ทีมงานสามารถใช้งานระบบ CRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรมีการสนับสนุนจากผู้ให้บริการในการฝึกอบรมและการตอบข้อสงสัยต่างๆ

– การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทำงาน:

ระบบ CRM อาจต้องการการเปลี่ยนแปลงในกระบวนการทำงานบางอย่าง ควรเตรียมทีมงานให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และสร้างความเข้าใจในประโยชน์ของการใช้งาน CRM

5. คุณมีข้อมูลและกระบวนการทำงานที่ชัดเจนหรือไม่?

การมีข้อมูลที่ถูกต้องและกระบวนการทำงานที่ชัดเจนจะช่วยให้การติดตั้งระบบ CRM เป็นไปได้อย่างราบรื่น

– การจัดระเบียบข้อมูลและการประเมินกระบวนการทำงาน:

ตรวจสอบและจัดระเบียบข้อมูลของคุณให้เป็นปัจจุบันและถูกต้อง การมีข้อมูลที่เป็นระบบจะช่วยให้การย้ายข้อมูลเข้าสู่ระบบ CRM เป็นไปได้อย่างราบรื่น

– ความสำคัญของข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน:

ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันจะช่วยให้การดำเนินงานในระบบ CRM เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ

– การเตรียมข้อมูลสำหรับการย้ายระบบ:

วางแผนการย้ายข้อมูลจากระบบเดิมเข้าสู่ระบบ CRM ใหม่อย่างละเอียด เพื่อลดความเสี่ยงของการสูญหายของข้อมูลและความผิดพลาดในการย้ายข้อมูล

6. ซอฟต์แวร์ CRM นี้สามารถเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณได้หรือไม่?

การเลือกซอฟต์แวร์ CRM ที่สามารถปรับตัวและเติบโตไปพร้อมกับธุรกิจของคุณเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะในยุคที่การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

– ความยืดหยุ่นและการปรับขนาดของระบบ CRM:

ตรวจสอบว่าระบบ CRM ที่คุณกำลังพิจารณามีความยืดหยุ่นและสามารถปรับขนาดได้หรือไม่ ระบบ CRM ควรจะสามารถรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ทั้งในด้านของจำนวนผู้ใช้งาน ปริมาณข้อมูล และการเพิ่มโมดูลหรือฟังก์ชันใหม่

– การสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจ:

ระบบ CRM ควรมีความสามารถในการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ เช่น การเปิดสาขาใหม่ การเพิ่มประเภทสินค้า หรือการขยายตลาดไปยังประเทศอื่น การพิจารณาความสามารถในการขยายตัวนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณไม่ต้องลงทุนใหม่ในระบบ CRM อื่นเมื่อธุรกิจเติบโต

– การเพิ่มโมดูลหรือฟีเจอร์ในอนาคต:

ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการ CRM ของคุณมีการพัฒนาและอัพเกรดซอฟต์แวร์อยู่เสมอ เพื่อให้สามารถเพิ่มฟีเจอร์หรือโมดูลใหม่ๆ ที่ตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจในอนาคต

7. การสนับสนุนหลังการขายและการบริการลูกค้าเป็นอย่างไร?

การบริการหลังการขายเป็นปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณา เนื่องจากระบบ CRM เป็นระบบที่ซับซ้อนและต้องการการสนับสนุนจากผู้ให้บริการอยู่เสมอ

– การรับประกันและการบริการหลังการขาย:

ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการ CRM ของคุณมีการรับประกันซอฟต์แวร์และการบริการหลังการขายอย่างไร การมีการรับประกันจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าปัญหาต่างๆ จะได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

– ความสามารถในการสนับสนุนและการตอบสนองของผู้ให้บริการ:

เลือกผู้ให้บริการที่มีทีมสนับสนุนที่มีความรู้และประสบการณ์ สามารถตอบข้อสงสัยและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว การมีทีมสนับสนุนที่ดีจะช่วยให้การใช้งานระบบ CRM เป็นไปได้อย่างราบรื่น

– การประเมินคุณภาพของการบริการลูกค้า:

อ่านรีวิวและความคิดเห็นจากลูกค้ารายอื่นเกี่ยวกับการบริการของผู้ให้บริการ CRM เพื่อประเมินคุณภาพของการบริการลูกค้า

8. ระบบ CRM สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ของคุณได้หรือไม่?

ในธุรกิจที่มีการใช้ระบบซอฟต์แวร์หลายระบบ การเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกันระหว่างระบบต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

– ความสามารถในการเชื่อมต่อและการทำงานร่วมกัน:

ตรวจสอบว่าระบบ CRM ที่คุณกำลังพิจารณามีความสามารถในการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับระบบอื่นๆ ที่ธุรกิจของคุณใช้อยู่ เช่น ระบบ ERP, ระบบ HR, หรือระบบจัดการสินค้า การเชื่อมต่อที่ดีจะช่วยให้ข้อมูลไหลลื่นและการดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

– การพิจารณาความเข้ากันได้กับระบบเดิม:

ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในระบบ CRM ควรตรวจสอบว่าระบบCRM ที่คุณเลือกสามารถเข้ากันได้กับระบบเดิมที่คุณใช้อยู่ การมีความเข้ากันได้จะช่วยลดปัญหาการโยกย้ายข้อมูลและการตั้งค่าระบบใหม่

– การใช้ API และการบูรณาการเชื่อมต่อ:

ระบบ CRM ที่มี API (Application Programming Interface) จะช่วยให้การบูรณาการเชื่อมต่อระหว่างระบบต่างๆ ง่ายขึ้น การใช้ API จะช่วยให้สามารถดึงข้อมูลและเชื่อมต่อระหว่างระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

9. ระบบ CRM มีความปลอดภัยเพียงใด?

ความปลอดภัยของข้อมูลเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลที่การโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย

– การป้องกันข้อมูลและการเข้าถึง:

ระบบ CRM ควรมีมาตรการการป้องกันข้อมูลที่เข้มงวด เช่น การเข้ารหัสข้อมูล การตั้งค่าระดับการเข้าถึงของผู้ใช้งาน และการติดตามการใช้งาน ระบบควรสามารถป้องกันการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตและการสูญหายของข้อมูล

– มาตรการรักษาความปลอดภัย:

ตรวจสอบว่าผู้ให้บริการ CRM มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างไร เช่น การป้องกันการโจมตีจากไวรัส การป้องกันการโจมตีจากภายนอก และการตรวจสอบความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ

– การประเมินความเสี่ยงและการจัดการความปลอดภัย:

การประเมินความเสี่ยงของระบบ CRM และการจัดการความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรพิจารณา เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญของคุณจะได้รับการป้องกันอย่างดี

10. ผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กรของคุณเป็นอย่างไร?

การนำระบบ CRM มาใช้จะส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กรอย่างแน่นอน และการจัดการการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นสิ่งสำคัญ

– การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร:

ระบบ CRM จะเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานและการตัดสินใจในองค์กร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมองค์กร ควรมีการเตรียมความพร้อมและการสื่อสารที่ดีเพื่อให้พนักงานทุกคนเข้าใจและยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้

– การรับมือกับการเปลี่ยนแปลง:

การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ

– การวางแผนงบประมาณสำหรับการลงทุนใน CRM:

สร้างแผนงบประมาณที่ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง และกำหนดระยะเวลาคืนทุน การวางแผนอย่างละเอียดจะช่วยให้คุณสามารถจัดการ

สิ่งสำคัญควรมีการวางแผนการเปลี่ยนแปลงอย่างละเอียด และมีการฝึกอบรมและสนับสนุนพนักงานในการปรับตัวให้เข้ากับการใช้งานระบบ CRM ใหม่

– การสร้างความร่วมมือและการยอมรับ:

การสร้างความร่วมมือและการยอมรับจากพนักงานทุกคนเป็นสิ่งสำคัญในการนำระบบ CRM มาใช้ ควรมีการสร้างความเข้าใจและการสนับสนุนจากฝ่ายบริหาร เพื่อให้การใช้งานระบบ CRM เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

บทความนี้ครอบคลุมถึง 10 คำถามสำคัญที่ควรถามก่อนการลงทุนในระบบ CRM แต่ละคำถามมีความสำคัญและมีผลกระทบต่อการตัดสินใจของคุณ การพิจารณาอย่างละเอียดและการวางแผนอย่างรอบคอบจะช่วยให้การลงทุนในระบบ CRM เป็นไปได้อย่างราบรื่นและให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า

Freshworks

เป็นบริษัทซอฟต์แวร์ระดับโลกที่ให้บริการซอฟต์แวร์เพื่อการมีส่วนร่วมของลูกค้าสำหรับธุรกิจทุกขนาด ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 Freshworks มีชุดผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและปรับการดำเนินงานของธุรกิจให้คล่องตัว โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:

  1. ชุดผลิตภัณฑ์: พอร์ตโฟลิโอของ Freshworks ประกอบด้วย Freshdesk (การสนับสนุนลูกค้า), Freshservice (การจัดการบริการด้าน IT), Freshsales (CRM และระบบอัตโนมัติด้านการขาย), Freshchat (การแชทสดและการส่งข้อความ), Freshcaller (ซอฟต์แวร์ศูนย์บริการบนคลาวด์) และ Freshteam (การจัดการ HR)
  2. โซลูชันบนคลาวด์: ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Freshworks อยู่บนคลาวด์ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน การขยายตัว และการเข้าถึงจากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
  3. ความง่ายในการใช้งาน: Freshworks มีชื่อเสียงในด้านอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้และการออกแบบที่เข้าใจง่าย ช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับใช้และใช้งานซอฟต์แวร์ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องฝึกอบรมมากนัก
  4. ความสามารถในการผนวกรวม: ผลิตภัณฑ์ของ Freshworks สามารถผนวกรวมกับซอฟต์แวร์และบริการอื่น ๆ ได้หลากหลาย ช่วยให้เวิร์กโฟลว์เป็นไปอย่างราบรื่นและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
  5. การมีอยู่ทั่วโลก: Freshworks ให้บริการลูกค้ามากกว่า 50,000 รายทั่วโลก ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
  6. นวัตกรรมและการอัปเดต: Freshworks อัปเดตผลิตภัณฑ์ของตนอย่างต่อเนื่องด้วยฟีเจอร์และการปรับปรุงใหม่ ๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการมีส่วนร่วมของลูกค้าและการดำเนินงานของธุรกิจ

ด้วยการใช้ชุดผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมของ Freshworks ธุรกิจสามารถจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า กระบวนการสนับสนุน กิจกรรมการขาย และการดำเนินงานภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจเติบโตและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้ในที่สุด

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ  Freshworks ติดต่อได้ที่:

Sundae Solutions Co., Ltd.

T| +6626348899  E| sales@sundae.co.th

W| https://www.sundae.co.th/solution/crm-and-customer-experience/freshworks/

Share