3 ทหารเสือในสื่อโฆษณาดิจิตอล ตอนที่ 2

เราได้รู้จักทั้ง 3 ทหารเสือในสื่อโฆษณาดิจิตอลจากตอนที่ 1 ไปบ้างแล้ว ซึ่งประกอบด้วย  สื่อโฆษณาออนไลน์แบบเจาะตรง (Digital Direct Response) ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และ โมบาย (Mobile)

ตอนที่ 2 นี้ เราจะผสมผสานทั้ง 3 ทหารเสือนี้เข้าด้วยกัน เพื่อให้มองเห็นภาพการทำงานของทั้ง 3 องค์ประกอบนี้ เราจะมาดูการทำงานทีละขั้นตอนกัน

ขั้นตอนที่ 1 เริ่มจากถามตัวเองก่อน

            บางคนอาจจะสงสัยว่าถ้าผู้เข้าชมเว็บไซต์ของตนเองที่มาจากโมบาย ซึ่งหมายถึง สมาร์ทโฟนและแท็ปเล็ต มีสัดส่วนเพียงเล็กน้อย เช่น ร้อยละ 10-20 ของผู้เข้าชมทั้งหมด นั่นหมายความว่าผู้เข้าชมส่วนใหญ่มาจากคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือโน้ตบุ๊ค

 

            คำถามคือ “แล้วเราจะต้องสนใจสื่อโฆษณาผ่านโมบายด้วยหรือไม่?”

 

            ประเด็นอยู่ที่ว่าลูกค้าของคุณใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็ปเล็ตอยู่ตลอดเวลาหรือไม่? ถ้าใช่ แล้วทำไมพวกเขาถึงไม่เข้าเว็บไซต์ของคุณล่ะ? คุณจะไม่ปรับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของคุณเหรอ?

ขั้นตอนที่ เชื่อในสื่อสังคมออนไลน์และทดสอบ

            คุณเชื่อหรือไม่ว่าผู้บริโภคของคุณใช้เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ อย่าง Facebook, Twitter หรือ LinkedIn เป็นส่วนใหญ่และใช้เป็นประจำด้วย ถ้าคุณมีพฤติกรรมหยิบสมาร์ทโฟนและเล่น Facebook ในเวลาว่าง ลูกค้าของคุณก็คงจะมีพฤติกรรมเหมือนกับคุณเช่นกัน สอดคล้องกับรายงานของ Facebook ที่ระบุว่า เว็บไซต์ Facebook มีรายได้มาจากโฆณษาผ่านโมบายถึงร้อยละ 60 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าเว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์ผ่านโมบาย

 

            จากนั้น คุณลองสร้างแคมเปญโฆษณาผ่าน Facebook ดูแล้วคุณจะได้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณที่มาจากโมบายสูงขึ้นแน่นอน      

ขั้นตอนที่ 3 ใช้โฆษณาแบบติดตาม (Remarketing) เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

            หลังจากที่คุณลงโฆษณาผ่าน Facebook คุณจะพบว่าผลตอบแทนการลงทุนหรือจำนวนคลิกไม่ได้มากอย่างที่คิดเมือเทียบกับสื่อออนไลน์อื่นๆ หนึ่งในสาเหตุหลักมาจากคุณยังขาดองค์ประกอบข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ไป

 

            คุณลองผูกเว็บไซต์ของคุณกับโฆษณาของ Facebook เพื่อที่จะให้โฆษณาของคุณไปปรากฏที่หน้าเว็บไซต์ Facebook ของผู้บริโภคที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อน ด้วยเทคนิคนี้ เราเรียกว่าโฆษณาแบบติดตาม (Remarketing)

 

            คุณสามารถติดตามผู้บริโภคที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณได้ เพื่อเป็นการเตือนให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าหรือดาวน์แอพลิเคชั่นก็ได้

ขั้นตอนที่ 4 ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เพิ่มอัตราการแปลง (Conversion rate) สูงขึ้น

            ด้วยขั้นตอนที่ 3 คุณจะเห็นผลลัพธ์ของการโฆษณาของคุณใน Facebook ที่ดีขึ้น ให้จำนวนคลิกที่สูงขึ้น แต่ยังไม่พอ คุณสามารถติดตามผู้บริโภคที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณแต่ละหน้าได้อีกด้วย เพราะแต่ละหน้าของเว็บไซต์หมายถึงความสนใจที่แตกต่างกัน คุณสามารถสื่อสารไปยังผู้บริโภคที่แตกต่างกันได้อีกด้วย เช่น ผู้บริโภคที่เคยอ่านรายละเอียดของโปรโมชั่นในเว็บไซต์ของคุณ คุณก็สามารถสื่อสารด้วยโฆษณาของคุณที่เกี่ยวกับโปรโมชั่นนั้นผ่าน Facebook  เพื่อเป็นการย้ำเตือนผู้บริโภคเห็นโฆษณาเกี่ยวกับโปรโมชั่นนั้นได้ ด้วยข้อมูลขนาดใหญ่นี้ คุณสามารถเข้าถึงผู้บริโภคแบบเจาะตรง ทำให้อัตราการแปลงสูงขึ้นอย่างมาก

 

            หวังว่าคุณจะเข้าใจการทำงานของทั้ง 3 ทหารเสือนี้แล้วหมดเวลากับโฆษณาออนไลน์แบบเดิมๆ ที่ไร้เป้าหมายและไม่สามารถเจาะตรงไปยังผู้บริโภคที่สนใจในสินค้าและบริการของคุณจริงๆ คุณจะต้องใช้ข้อมูลขนาดใหญ่ที่เป็นพฤติกรรมของผู้บริโภคเสริมกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ของให้คุณให้ประสบความสำเร็จและได้ผลตอบแทนการลงทุนสูงขึ้น

นาวิก นำเสียง

กรรมการผู้จัดการ

บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด

navik@sundae.co.th

เกี่ยวกับ คุณนาวิก นำเสียง

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด

คณะกรรมการ สมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย (TMRS)

ผู้เชี่ยวชาญในการตลาดออนไลน์และการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) โดยเป็นที่ปรึกษาและวิทยากรบรรยายให้กับหน่วยงานต่างๆ

อดีตเป็นบุกเบิกธุรกิจออนไลน์ในยุคแรก เป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ยำใหญ่ (YumYai.com) และผู้บริหารเว็บไซต์ต่างๆ

ติดตามคุณนาวิกได้ที่ Twitter.com/navikn