พลิกโฉมการทำงานขององค์กรด้วย AI-powered Low Code / No Code Application Development Platform

สร้างแอปได้รวดเร็ว เห็นผลทันที พร้อมใช้งานในทุกกระบวนการธุรกิจ

ในยุคที่องค์กรต้องการปรับตัวอย่างรวดเร็ว การพัฒนาแอปพลิเคชันแบบเดิมอาจใช้เวลาและทรัพยากรจำนวนมาก การใช้ AI-powered Low Code / No Code Application Development Platform จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ ด้วยความสามารถในการ สร้างแอปได้รวดเร็ว ใช้งานง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย และเชื่อมต่อกับระบบ ERP ได้อย่างไร้รอยต่อ

สมัยที่ต้องพึ่งพาแต่ผู้พัฒนาที่มีทักษะเท่านั้นในการทำให้ไอเดียแอปกลายเป็นจริงนั้นหมดไปแล้ว ด้วยแพลตฟอร์ม Low Code/No Code พลังแห่งการสร้างสรรค์นวัตกรรมจึงอยู่ในมือของผู้ประกอบการ ธุรกิจขนาดเล็ก และผู้ที่ชื่นชอบที่ต้องการทำให้วิสัยทัศน์ของตนกลายเป็นจริงได้อย่างง่ายดาย บทความนี้จะเจาะลึกถึงการเติบโตของแพลตฟอร์มเหล่านี้ สำรวจว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้ปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์การพัฒนาแอปมือถืออย่างไร และทำให้กระบวนการสร้างสรรค์เป็นประชาธิปไตยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

พลิกโฉมการทำงานขององค์กรด้วย AI-powered Low Code No Code Application Development Platform

จุดเด่นของแพลตฟอร์ม AI-powered Low Code / No Code

  • ไม่ต้องมีทักษะการเขียนโปรแกรม ก็สามารถสร้างแอปพลิเคชันได้ด้วยการลากและวาง (Drag-and-Drop)
  • AI ช่วยแนะนำและสร้างอัตโนมัติ ตั้งแต่แบบฟอร์ม ไปจนถึงเวิร์กโฟลว์
  • ประหยัดต้นทุน ทั้งด้านเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนา
  • พร้อมเชื่อมต่อ ERP / CRM / ระบบหลังบ้าน ได้ทันที
  • รองรับการใช้งานผ่านมือถือและแท็บเล็ต ทุกระบบ

ตัวอย่าง Use Cases ที่ช่วยให้องค์กรเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างทันที

Field Sales

1. Field Sales App

เพิ่มประสิทธิภาพทีมขายภาคสนามให้มียอดขายสูงขึ้น

ฟังก์ชันเด่น:

  • ตรวจสอบราคาสินค้าและสต็อกแบบเรียลไทม์
  • สร้างใบเสนอราคาและใบสั่งขายจากมือถือ
  • จัดการการเก็บเงินสดและออกใบเสร็จทันที

ประโยชน์:

  • ทีมขายใช้เวลาน้อยลงกับงานเอกสาร และมีเวลาโฟกัสที่การขายมากขึ้น
  • ลดข้อผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลซ้ำซ้อน
  • ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างวัดผลได้

2. Van Sales App

เพิ่ม Productivity ของทีมขายบนรถตู้ (Van Sales)

ฟังก์ชันเด่น:

  • บันทึกคำสั่งซื้อและยอดเก็บเงินแบบเรียลไทม์
  • ซิงก์ข้อมูลโดยตรงกับระบบ ERP
  • รายงานยอดขายและประสิทธิภาพของพนักงานได้ทันที

ประโยชน์:

  • ลดเวลาทำรายงาน
  • ผู้บริหารเห็นข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ ตัดสินใจได้รวดเร็ว
  • ทีมขายทำงานได้ต่อเนื่อง ไม่ต้องกลับสำนักงานเพื่อกรอกข้อมูล
Customer Self Order App

3. Customer Self Order App

ให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้เองผ่านมือถือ

ฟังก์ชันเด่น:

  • ลูกค้าสามารถสร้างคำสั่งซื้อจากมือถือได้ทันที
  • เชื่อมต่อระบบ ERP โดยอัตโนมัติ
  • แจ้งเตือนคำสั่งซื้อและสถานะการจัดส่ง

ประโยชน์:

  • เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า ลดภาระทีมขาย
  • ลดข้อผิดพลาดจากการกรอกข้อมูลผิด
  • เพิ่มโอกาสในการขายแบบไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่
Warehouse Management App

4. Warehouse Management App

จัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพบนมือถือ

ฟังก์ชันเด่น:

  • ตรวจนับสินค้า, รับเข้า, จัดเก็บ, หยิบสินค้า และเคลื่อนย้ายผ่านอุปกรณ์มือถือ
  • เชื่อมโยงกับระบบ Supply Chain / ERP
  • มีระบบแสกนบาร์โค้ดในตัว

ประโยชน์:

  • ลดข้อผิดพลาดในกระบวนการจัดการคลังสินค้า
  • เพิ่มความเร็วในการปฏิบัติงาน
  • ลดต้นทุนแรงงาน และเพิ่มการควบคุมสต็อก
Delivery Mobile App

5. Delivery Mobile App

บริหารจัดการการจัดส่งแบบ Last Mile อย่างชาญฉลาด

ฟังก์ชันเด่น:

  • กำหนดเส้นทางจัดส่ง, คนขับ, ความสำคัญของลูกค้า
  • อัปเดตสถานะการจัดส่งและรับชำระเงินได้จากแอป
  • มีลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์และบันทึกหลักฐานการส่งของ

ประโยชน์:

  • ลดการใช้กระดาษ (Paperless)
  • ตรวจสอบเส้นทางและการจัดส่งได้แบบเรียลไทม์
  • เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
Field Service App

6. Field Service App

ช่วยวิศวกรภาคสนามให้โฟกัสที่งานบริการ ไม่ใช่เอกสาร

ฟังก์ชันเด่น:

  • แสดงตารางนัดหมายงานภาคสนาม
  • บันทึกเวลาการทำงานและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น
  • ส่งข้อมูลเข้าระบบ ERP โดยอัตโนมัติ

ประโยชน์:

  • วิศวกรทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องใช้กระดาษ
  • ฝ่ายบริการรับข้อมูลได้ทันที ไม่ต้องรอส่งกลับ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลลูกค้า

ทำไมต้องใช้ AI-powered Low Code / No Code กับแอป ERP เหล่านี้?

ติดตั้งและใช้งานได้ทันที เห็นผลไว ไม่ต้องรอหลายเดือน

รองรับการใช้งานแบบ Offline / Online ทำงานได้แม้ไม่มีสัญญาณ

ออกแบบ UX/UI ให้ใช้งานง่าย แม้ไม่มีพื้นฐานด้านเทคโนโลยี

รองรับการขยายและปรับแต่งได้ในอนาคต

 

สรุป:

ปรับตัวให้เร็วกว่า เปลี่ยนให้ไวกว่า ด้วยแอปที่สร้างจาก AI-powered Platform

การนำเทคโนโลยี AI-powered Low Code / No Code มาใช้ในการพัฒนาแอปธุรกิจที่เชื่อมต่อกับระบบ ERP ไม่เพียงแค่เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจให้ทันยุค ทันตลาด และพร้อมสำหรับการแข่งขันในอนาคต

หากองค์กรของคุณกำลังมองหาเครื่องมือเพื่อยกระดับกระบวนการภายใน ลองเริ่มต้นจากแอปพลิเคชันเหล่านี้ แล้วคุณจะเห็น “ผลลัพธ์ทันที” อย่างที่คุณคาดไม่ถึง!

OrangeKloud

eMOBIQ-AI คือใคร? ทำอะไรได้บ้าง

eMOBIQ-AI เป็นแพลตฟอร์มพัฒนาแอปพลิเคชันแบบ No-Code ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) จากบริษัท OrangeKloud ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์  แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้างแอปพลิเคชันมือถือได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม

 

ทำไมต้องใช้ eMOBIQ-AI

การใช้ eMOBIQ-AI มีข้อดีหลายประการ:

ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนา: ด้วยความสามารถของ No-Code และ AI ผู้ใช้งานสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้รวดเร็ว ลดเวลาจากสัปดาห์เป็นชั่วโมง

เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถพัฒนาแอปได้: ไม่จำเป็นต้องมีทักษะการเขียนโค้ด ทำให้บุคคลทั่วไปสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้

รองรับการขยายตัวของธุรกิจ: แพลตฟอร์มนี้สามารถปรับแต่งและขยายขีดความสามารถได้ตามการเติบโตขององค์กร

 

ความสามารถ

eMOBIQ-AI มาพร้อมกับความสามารถที่โดดเด่น เช่น:

การสร้างแอปด้วยการลากและวาง (Drag-and-Drop): ทำให้การออกแบบและพัฒนาแอปเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว

การใช้ AI ในการแนะนำและสร้างองค์ประกอบของแอป: ช่วยให้การพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้น

การเชื่อมต่อกับระบบ ERP และ CRM ได้อย่างราบรื่น: ทำให้แอปที่พัฒนาสามารถทำงานร่วมกับระบบธุรกิจที่มีอยู่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

จุดเด่น

จุดเด่นของ eMOBIQ-AI ได้แก่:

ความร่วมมือกับ AI Singapore (AISG): เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี No-Code ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วยการใช้ปัญญาประดิษฐ์

การได้รับการยอมรับในระดับสากล: บริษัท OrangeKloud ได้เข้าร่วมงานแสดงเทคโนโลยีระดับโลก เช่น GITEX Global Dubai 2024 เพื่อแสดงนวัตกรรมของ eMOBIQ-AI

การสนับสนุนจากทีมงานมืออาชีพ: มีทีมงานที่มีประสบการณ์พร้อมให้คำปรึกษาและสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชัน

สอบถามเกี่ยวกับ Low Code/ No Code App Development Platform  ได้ที่

บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด
โทร 026348899 อีเมล sales@sundae.co.th

เว็บไซต์ https://www.sundae.co.th

ติดตามเราได้ที่:
Line OA: @SundaeSolutions
Facebook: https://www.facebook.com/sundaesolutions
LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/sundaeth
IG https://www.instagram.com/sundaesolutions/
X https://www.x.com/@SundaeSolutions

#ERP #SAP #SAPBUSINESS ONE #Software #SundaeSolutions