อย่าปล่อยโอกาสหลุดลอยไปด้วย Remarketing

            ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกับชื่อ Remarketing หรือที่เรียกกันว่า “การโฆษณาแบบติดตาม” ผมก็เชื่อว่าหลายคนที่เคยได้ยินคำนี้ ก็ยังไม่เข้าใจว่ามันหมายถึงอะไรอย่างลึกซึ้งและที่สำคัญ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะนำ Remarketing ไปใช้ประโยชน์กับธุรกิจได้อย่างไร จึงไม่แปลกใจเลย ที่เราไม่ค่อยเห็นโฆษณาออนไลน์ของธุรกิจไทยที่ใช้ Remarketing สักเท่าไร

            Remarketing หรือ การโฆษณาแบบติดตามจะช่วยให้โฆษณาออนไลน์ของคุณ โดยเฉพาะแบนเนอร์ ไปปรากฏกับผู้เข้าชมที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อน

            คุณเคยสังเกตมั้ยว่าเมือไรที่คุณเข้าเว็บไซต์ของผู้ให้บริการหรือเว็บไซต์ขายของ เช่น คุณค้นหาที่พักในเว็บไซต์ Agoda เป็นต้น จากนั้น คุณก็จะเห็นโฆษณาโรงแรมที่พักของ Agoda ไปปรากฏตามเว็บไซต์ต่างๆ หรือแม้กระทั้งเว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่างเฟสบุค ตลอดเวลา เหมือนกับว่ารู้ใจเราไปหมดว่าเราต้องการอะไรหรือค้นหาอะไรอยู่ในขณะนี้ เรียกว่า ไม่ปล่อยให้เราคาดสายตาเลย

            คุณสามารถติดตั้งโฆษณาแบบติดตามนี้ได้โดยใช้บริการโฆษณาออนไลน์ผ่าน Google Display Network (GDN) หรือ เฟสบุค เพียงคุณติดตั้งโค้คที่ได้มาจาก GDN หรือ เฟสบุค ในทุกหน้าของเว็บไซต์คุณ จากนั้น ทุกครั้งที่คุณสร้างแคมเปญโฆษณา คุณก็ระบุโฆษณาของคุณให้เป็นแบบติดตาม เพียงเท่านี้ โฆษณาของคุณก็จะปรากฏในเว็บไซต์ต่างๆ หรือเฟสบุคกับผู้ที่เคยเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมาก่อน ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นอาจจะเป็นลูกค้าหรือลูกค้ามุ่งหวังของคุณ

            ดังนั้น Remarketing จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการลงโฆษณาที่คุณจะไม่ปล่อยให้โอกาสการขายของคุณหลุดลอยไป เพราะว่า ผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณมีความสนใจในสินค้าและบริการของคุณอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะยังไม่ถึงเวลาที่ต้องการซื้อก็ได้ เมือโฆษณาของคุณไปปรากฏให้เห็นบ่อยๆ โอกาสปิดการขายของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

แล้วธุรกิจจะได้ประโยชน์อะไรจาก Remarketing บ้าง

1. สร้างการระลึกได้ถึงแบรนด์ (Brand recall) ของคุณ

            Remarketing เป็นเครื่องมือที่วิเศษสุดจริงๆ ที่จะย้ำเตือนลูกค้าของคุณให้ระลึกได้ถึงแบรนด์ของคุณ ลูกค้าของคุณจะเจอโฆษณาของคุณตลอดเวลาในจากหลากหลายเว็บไซต์ของเครือข่ายโฆษณาออนไลน์ หรือแม้กระทั้งในหลากหลายอุปกรณ์ แบบว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหน คุณก็จะยิงโฆษณาถึงที่นั้นเลย ลูกค้าที่เห็นโฆษณาของคุณบ่อยๆ ก็จะจำแบรนด์ของคุณได้ในที่สุด

2. เพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้น

            Conversion rate เป็นอัตราการเปลี่ยนแปลงสู่ความสำเร็จ ซึ่งคำนวนมาจากอัตราส่วนของความสำเร็จ เช่น จำนวนครั้งที่ซื้อสินค้า จำนวนครั้งที่ได้ผู้สมัครใหม่ เป็นต้น กับจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด ยิ่งมีอัตราที่สูงเท่าไร ก็หมายถึงความสำเร็จของการตลาดออนไลน์มีมากเท่านั้น ดังนั้น Conversion rate จึงมีความสำคัญอย่างมากในการตลาดออนไลน์ และเป้าหมายหลักของนักการตลาดที่จะเพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้น

            Remarketing จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้น ด้วยการย้ำเตือนหรือโฆษณาไปยังลูกค้ามุ่งหวังให้กลับมาซื้อสินค้าหรือบริการอีกครั้ง ตัวอย่างเช่น ถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ คุณอาจจะมีลูกค้าที่เลือกสินค้าแต่สุดท้ายไม่ชำระเงินหรือ สั่งซื้อสินค้าไม่เสร็จสมบูรณ์ คุณก็สามารถใช้โฆษณาแบบติดตามกับลูกค้าเหล่านี้ได้ เพื่อให้กลับมาซื้อสินค้าของคุณอีกครั้ง

            อีกตัวอย่างเช่น คุณอาจจะใช้โฆษณาแบบติดตามกับลูกค้าที่เข้ามาดาวน์โหลดเอกสารหรือลงทะเบียนสนใจสินค้าในเว็บไซต์ของคุณ ลูกค้าเหล่านี้มีความสนใจในสินค้าของคุณอยู่แล้ว เพียงแค่คุณเตือนพวกเขาด้วยโฆษณาแบบติดตาม พวกเขาก็จะกลับมาซื้อสินค้าของคุณในที่สุด

3. ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด

            ความสามารถในการติดตามลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าหรือบริการเฉพาะเจาะจงจะช่วยให้คุณปิดการขายมีประสิทธิภาพมากขึ้น Remarketing สามารถใช้กับลูกค้าที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณเฉพาะหน้าใดหน้าหนึ่งได้ แต่ละหน้าของเว็บไซต์จะบ่งบอกถึงความสนใจ ดังนั้น Remarketing จึงเป็นเครื่องมือวิเศษที่คุณจะโฆษณาด้วยข้อความเฉพาะไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (Segmentation) ได้ดีที่สุด เช่น โฆษณาด้วยโปรโมชั่นพิเศษเพื่อจูงใจในซื้อสินค้า กับกลุ่มเป้าหมายที่สนใจสินค้านั้นอยู่แล้ว เป็นต้น

4. สุดท้าย ไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไป

            ลูกค้าที่เข้าชมเว็บไซต์ของคุณจะมาจากแหล่งที่มาต่างๆ เช่น เสิรซ์เอ็นจิ้น เว็บไซต์สังคมออนไลน์ เว็บไซต์ต่างๆ หรือโฆษณาออนไลน์ เป็นต้น พวกเขาจะไม่ซื้อสินค้าของคุณจากการเข้าชมครั้งแรก พวกเขาจะต้องเปรียบเทียบสินค้ากับเว็บไซต์อื่นๆ หรือสนทนากับเพื่อนในเว็บไซต์สังคมออนไลน์ ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อสินค้า ดังนั้น Remarketing สามารถที่จะดึงพวกเขาใหักลับมามีส่วนร่วมหรือกลับมาเป็นลูกค้าของคุณ ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียของลูกค้าที่มาจากสื่อโฆษณาแรกได้ เพราะว่า ลูกค้าพวกนี้จะมีแนวโน้มสูงในการซื้อสินค้าอยู่แล้ว

            ดังนั้นอย่าปล่อยให้ลูกค้าหรือโอกาสการขายของคุณหลุดลอยไป ทุกครั้งที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ นั่นคือโอกาสการขายที่คุณจะต้องปิดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ลอง Remarketing ดูนะครับ แล้วคุณจะเห็นความแตกต่างของการใช้สื่อโฆษณาออนไลน์แบบปกติอย่างชัดเจน

นาวิก นำเสียง

กรรมการผู้จัดการ

บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด

navik@sundae.co.th

เกี่ยวกับ คุณนาวิก นำเสียง

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซันเด โซลูชันส์ จำกัด

คณะกรรมการ สมาคมวิจัยการตลาดแห่งประเทศไทย (TMRS)

ผู้เชี่ยวชาญในการตลาดออนไลน์และการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) โดยเป็นที่ปรึกษาและวิทยากรบรรยายให้กับหน่วยงานต่างๆ

อดีตเป็นบุกเบิกธุรกิจออนไลน์ในยุคแรก เป็นผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ยำใหญ่ (YumYai.com) และผู้บริหารเว็บไซต์ต่างๆ

ติดตามคุณนาวิกได้ที่ Twitter.com/navikn

(Source : คุณนาวิก นำเสียง)