Empathy คือหัวใจ ไม่ใช่แค่ AI ที่จะขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจ

Empathy คือหัวใจ ไม่ใช่แค่ AI ที่จะขับเคลื่อนอนาคตของธุรกิจ

ในปัจจุบัน เทคโนโลยี AI กลายเป็นคำยอดฮิตในทุกบทสนทนาเชิงธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นแผนกลยุทธ์ บอร์ดบริหาร หรือข่าวประชาสัมพันธ์ ต่างก็พูดถึงศักยภาพของ AI ที่สามารถปฏิวัติองค์กร เพิ่มประสิทธิภาพ และยกระดับประสบการณ์ของพนักงานและลูกค้าได้อย่างน่าทึ่ง

แต่สิ่งหนึ่งที่ทรงพลังไม่แพ้กันในการสร้างอนาคตของธุรกิจ—และมักจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร—ก็คือ “ความเข้าอกเข้าใจผู้อื่น” หรือที่เราเรียกว่า Empathy

AI ช่วยให้เราทำงานอัตโนมัติและวิเคราะห์ข้อมูลได้ดีขึ้น

แต่ Empathy จะช่วยเชื่อมโยง “เทคโนโลยี” กับ “ผู้คน”

เพื่อสร้างประสบการณ์ที่แท้จริงและยั่งยืนสำหรับทั้งพนักงานและลูกค้า

ทำไมผู้นำไอทีต้องมี Empathy ควบคู่กับเทคโนโลยี?

จากประสบการณ์ของผมในฐานะผู้นำด้านไอทีและอดีต CIO ความเข้าอกเข้าใจคือหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุด ผมพยายามมองโลกในมุมของพนักงาน เข้าใจความท้าทายในการทำงานในแต่ละวัน และออกแบบระบบที่ช่วยสนับสนุนให้เขาทำงานได้ดีขึ้น ไม่ใช่แค่ระบบที่ “ทำงานได้” แต่เป็นระบบที่ “คนอยากใช้”

หากผมไม่อยากใช้ระบบที่ออกแบบเอง

ผมก็ไม่ควรให้พนักงานต้องใช้มันเช่นกัน

การเป็นผู้นำที่มี Empathy ไม่ใช่แค่เรื่องของ “จิตใจดี” แต่เป็น “กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในระยะยาว” งานวิจัยจาก Medallia ซึ่งเป็นบริษัทที่ผมเคยร่วมงานด้วย พบว่า การนำองค์กรด้วย Empathy:

• เพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน

• ช่วยเพิ่ม Net Promoter Score ได้มากถึง 30%

• ลดอัตราการลาออกของพนักงานได้ถึง 50%

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ยิ่งต้องใช้ Empathy เป็นเครื่องมือ

ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา องค์กรไอทีต้องเผชิญการเปลี่ยนแปลงอย่างหนักหน่วง ทั้งจากโควิด การทำงานแบบรีโมท และการเข้ามาของ AI ซึ่งสร้างแรงกดดันให้พนักงานต้องปรับตัวโดยไม่ทันตั้งตัว

แม้เทคโนโลยีจะเป็นหัวใจของการเปลี่ยนแปลง แต่ “ตัววัดความสำเร็จที่แท้จริง” คือความสามารถของผู้นำในการสนับสนุนคนในทีมให้ผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นไปได้

EX (Employee Experience) สำคัญไม่แพ้ CX (Customer Experience)

ในฐานะ CIO ผมเชื่ออย่างแรงกล้าว่า “ประสบการณ์ภายในองค์กรที่ดี” คือจุดเริ่มต้นของ “ประสบการณ์ลูกค้าที่ดี” เมื่อพนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการสนับสนุนอย่างแท้จริง เขาจะพร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเช่นกัน

IT ไม่ควรสนใจเฉพาะตัวเลข Customer Satisfaction แต่ควรให้ความสำคัญกับ User Experience ของพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน ตั้งแต่การออกแบบระบบให้ใช้งานง่าย ไปจนถึงการรับฟังความคิดเห็นจริงจัง

สร้างวัฒนธรรม “Empathy อย่างแท้จริง” ต้องเริ่มจากผู้นำ

Empathy ไม่ใช่สิ่งที่ควรมีแค่ฝ่ายบริหาร แต่องค์กรที่ประสบความสำเร็จจริง ๆ คือต้อง สร้างวัฒนธรรมที่ทุกคนในองค์กรแสดงความเข้าอกเข้าใจกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานกับผู้บริหาร หรือเพื่อนร่วมงานระหว่างแผนก สิ่งนี้จะนำไปสู่การทำงานร่วมกันอย่างแท้จริง

ตัวอย่างหนึ่งคือ ผมเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนให้ Feedback ต่อผมโดยตรงทุกปี รวมถึงให้คะแนนความเชื่อมั่นในตัวผมในฐานะ CIO ซึ่งผมจะตอบกลับทุกข้อความ—ไม่ว่าคุณจะเป็นคนที่เห็นด้วยหรือไม่—เพื่อแสดงให้เห็นว่า ผมรับฟังและใส่ใจ

ความสมดุลระหว่าง Empathy และ Efficiency

แน่นอนว่า Empathy ต้องไปควบคู่กับประสิทธิภาพ การเห็นอกเห็นใจพนักงานไม่ได้แปลว่าต้องประนีประนอมกับทุกอย่าง แต่คือการคิดระยะยาวเพื่อความยั่งยืน เช่น การนำ AI มาใช้โดยไม่ให้การอบรมหรือสนับสนุนเพียงพอ อาจทำให้เกิดความเครียดและความล้มเหลวในการใช้งาน

การวางแผนที่ดีต้องมองเห็นทั้ง “ความคุ้มค่าทางธุรกิจ” และ “ผลกระทบต่อคนในองค์กร” พร้อมกัน

บทบาทใหม่ของ CIO ต้องมี “หัวใจ” ควบคู่กับ “เทคโนโลยี”

ปัจจุบัน CIO ไม่ได้มีหน้าที่แค่ดูแลระบบไอทีเบื้องหลังอีกต่อไป แต่ต้องมีบทบาทเชิงกลยุทธ์มากขึ้น เป็นผู้ขับเคลื่อนรายได้ สร้างประสบการณ์ลูกค้า และมีส่วนร่วมในวิสัยทัศน์องค์กรอย่างลึกซึ้ง

ยิ่งเราขยับสู่ยุคของ AI มากเท่าไร “หัวใจของผู้นำ” ก็ยิ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้

สรุป: Empathy ไม่ใช่แค่ Soft Skill — แต่คือ Leadership Skill ที่จำเป็นในยุค AI

ความสามารถในการเข้าอกเข้าใจ คือสิ่งที่จะสร้างความแตกต่างให้กับผู้นำธุรกิจในยุคที่เทคโนโลยีครองโลก เพราะสุดท้ายแล้ว AI อาจจะช่วยให้เราทำงานได้เร็วขึ้น แต่จะไม่มีวัน “เข้าใจมนุษย์” ได้อย่างแท้จริง

องค์กรที่มีผู้นำที่ใส่ใจทั้งคนในและคนนอกองค์กร คือองค์กรที่พร้อมที่สุดสำหรับอนาคต

For more information about  Freshworks AI, please contact:

Sundae Solutions Co., Ltd.

T| +6626348899  E| sales@sundae.co.th

W| https://www.sundae.co.th/solution/crm-and-customer-experience/freshworks/