พลิกโฉมธุรกิจด้วย Generative AI จากแนวคิดสู่การใช้งานจริง

ในยุคที่เทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว เราได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายอุตสาหกรรมซึ่งได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีที่ทันสมัย หนึ่งในนั้นคือ Generative AI ที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในหลายภาคส่วนธุรกิจ ตั้งแต่การสร้างสรรค์เนื้อหา การออกแบบ ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูล บทความนี้จะเจาะลึกถึงความหมายของ Generative AI, ความแตกต่างระหว่าง Generative AI กับ AI ทั่วไป, เหตุผลที่ธุรกิจให้ความสำคัญกับ Generative AI, วิธีการนำไปใช้ในธุรกิจ รวมถึงตัวอย่างจากซอฟต์แวร์ระดับโลกและมองไปข้างหน้าถึงอนาคตของ Generative AI

พลิกโฉมธุรกิจด้วย Generative AI จากแนวคิดสู่การใช้งานจริง

Generative AI คืออะไร?

Generative AI (Generative Artificial Intelligence) เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาให้คอมพิวเตอร์สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้โดยอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ ซึ่งอาจเป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้จากการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) หรือการปฏิบัติงานอัตโนมัติ (Machine Learning) ซึ่งเทคโนโลยีนี้สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ เช่น ข้อความ รูปภาพ เสียง หรือวีดีโอ ตัวอย่างเช่น โมเดลที่เรารู้จักกันดีอย่าง GPT (Generative Pretrained Transformer) ซึ่งใช้ในการสร้างข้อความที่มีความคล้ายคลึงกับการเขียนโดยมนุษย์ หรือ DALL·E ที่สามารถสร้างภาพจากคำอธิบายได้

 

Generative AI ต่างกับ AI อย่างไร?

แม้ว่า Generative AI จะเป็นส่วนหนึ่งของ AI แต่มีความแตกต่างกันในเชิงหน้าที่และการนำไปใช้งาน โดยทั่วไปแล้ว AI หมายถึงการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อทำงานที่มักต้องใช้ปัญญาของมนุษย์ เช่น การรับรู้ภาพ (Image Recognition), การวิเคราะห์ข้อมูล, การตัดสินใจ เป็นต้น แต่ Generative AI เน้นไปที่การสร้างสรรค์เนื้อหาใหม่ ๆ โดยใช้ข้อมูลที่เรียนรู้มา ทำให้มีความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

 

ตัวอย่างเช่น AI ทั่วไปอาจใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการขายเพื่อทำการพยากรณ์ยอดขายในอนาคต ในขณะที่ Generative AI อาจใช้ในการสร้างแคมเปญโฆษณาที่สมบูรณ์แบบตามข้อมูลที่เรียนรู้มา

 

ทำไมธุรกิจจึงให้ความสำคัญกับ Generative AI?

Generative AI ได้รับความสนใจจากธุรกิจอย่างมากเนื่องจากสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าให้กับองค์กรได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหา การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือการพัฒนาบริการใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น ธุรกิจในอุตสาหกรรมการตลาดสามารถใช้ Generative AI เพื่อสร้างโฆษณาที่ปรับให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเนื้อหาหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ โดยอัตโนมัติ

 

นอกจากนี้ การใช้ Generative AI ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การสร้างเนื้อหาเฉพาะบุคคล (Personalized Content) หรือการพัฒนาแชทบอทที่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ

 

การนำ Generative AI มาใช้กับธุรกิจ และประโยชน์

การนำ Generative AI มาใช้ในธุรกิจ มีหลายวิธีที่สามารถนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ตัวอย่างเช่น

 

  1. การสร้างเนื้อหาอัตโนมัติ: ธุรกิจสามารถใช้ Generative AI ในการสร้างเนื้อหาสำหรับเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรือแคมเปญการตลาดอื่น ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพานักเขียนหรือทีมสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ซึ่งช่วยลดเวลาและต้นทุน
  2. การออกแบบผลิตภัณฑ์: ในอุตสาหกรรมการออกแบบและการผลิต Generative AI สามารถช่วยในการสร้างแบบจำลอง 3D หรือการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. การวิเคราะห์และทำการตลาด: Generative AI สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาแนวโน้มใหม่ ๆ หรือพฤติกรรมของลูกค้า ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  4. การปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้า: AI ที่สามารถสร้างเนื้อหาใหม่ได้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้าได้อย่างล้ำลึกและเป็นธรรมชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาผ่านแชทบอท หรือการแนะนำสินค้า

ตัวอย่างการใช้ Generative AI ของซอฟต์แวร์ระดับโลก

ในบริบทของการดำเนินธุรกิจ SAP Business One เป็นหนึ่งในซอตฟ์แวร์ ERP และ Freshworks เป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์ CRM ที่นำ Generative AI มาใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยมีฟีเจอร์ที่เด่นชัดดังนี้:

  1. SAP Business One: เป็นซอฟต์แวร์ ERP ที่ออกแบบมาเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก โดยมีการนำ Generative AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ เพื่อทำการพยากรณ์ยอดขาย วางแผนการผลิต หรือจัดการสินค้าคงคลัง นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AI ในการสร้างรายงานหรือสรุปข้อมูลที่มีความซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว
  2. Freshworks: Freshworks มีเครื่องมือที่นำ Generative AI มาใช้ในการสร้างสรรค์การตลาด การขาย และการบริการลูกค้า เช่น Freddy AI ซึ่งเป็น AI Assistant ที่ช่วยธุรกิจในการสร้างเนื้อหาทางการตลาด การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และการปรับแต่งประสบการณ์ลูกค้าในแบบที่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ

อนาคตของ Generative AI

ในอนาคต Generative AI คาดว่าจะมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่ขึ้นในทุกภาคส่วนธุรกิจ เนื่องจากความสามารถในการสร้างเนื้อหาและการแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การพัฒนา Generative AI จะมุ่งเน้นไปที่การทำให้ AI เข้าใจและสามารถสร้างสรรค์สิ่งที่มีความซับซ้อนและล้ำลึกยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างงานศิลปะ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อน หรือแม้กระทั่งการสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่ ๆ ที่ตอบสนองต่อปัญหาที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

 

นอกจากนี้ Generative AI ยังจะมีบทบาทในด้านความยั่งยืน (Sustainability) โดยช่วยในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม หรือการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

 

Generative AI เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพสูงในการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหา การออกแบบผลิตภัณฑ์ หรือการปรับแต่งประสบการณ์ของลูกค้า ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและการนำไปใช้ในหลากหลายด้าน เราอาจจะได้เห็น Generative AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ  Freshworks – Freshsales Suite ติดต่อได้ที่:

Sundae Solutions Co., Ltd.

T| +6626348899  E| sales@sundae.co.th

W| https://www.sundae.co.th/solution/crm-and-customer-experience/freshworks/